Friday, August 17, 2012

วิธีดูกระเป๋า "หลุยส์" (Louis Vuitton) ว่าของแท้ หรือของปลอม

How to know a fake Louis Vuitton bag?

แบรนด์กระเป๋าดังระดับโลก หลุยส์ วิตตอง หรือที่บ้านเราเรียกกันสั้น ๆ ว่า "กระเป๋าหลุยส์" หรือ "LV" หรือ "หลุยส์ วิตตอง" (Louis Vuitton) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องหนังอันดับแรก ๆ ของโลก

โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จำพวกกระเป๋าหนังสุดหรูที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือว่าเป็น Luxury Handbag ที่อยู่ในกลุ่ม Premium Brand ที่ได้รับความนิยมสูงมากจากสาวๆ (หรือหนุ่มๆ) ทั่วโลก จนกลายเป็นสินค้าติดอันดับต้นๆ ที่มักถูกเลียนแบบและพบของปลอมหรือของ เก๊บ่อยที่สุด และเหมือนที่สุด (ปลอมเหมือนจนกระทั่งใบเสร็จและแพ็กเกจจิ้ง) สำหรับใครที่ชื่นชอบสไตล์การออกแบบของกระเป๋าหลุยส์ (Louis Vuitton) โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังมองหากระเป๋าหลุยส์ของแท้มาไว้ในครอบครอง…ห้ามพลาดค่ะ เพราะเราได้รวบรวมวิธีตรวจสอบกระเป๋าหลุยส์ของแท้ มาฝากค่ะ ลองมาเช็คกันดูนะค่ะ ว่าของแท้ๆ ต้องดูแบบหลักๆ ตรงไหนกันบ้าง



วิธีดูกระเป๋า "หลุยส์ วิตตอง" (Louis Vuitton) ว่าของแท้ หรือ ของปลอม

1. ลอง Search หาหน้าตาของรุ่นที่เป็นของแท้หรือ Model สินค้า หรือราคารุ่นที่ต้องการ

ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับการฝึกดูว่ากระเป๋าของแท้ กับของปลอมต่างกันอย่างไร ดูจาก Online Store ประเภทที่ขายพวก Luxury Handbag หรือสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจาก Internet ลอง Search เปรียบเทียบดูกับพวก fake handbag Brand ต่างๆ เพราะบางทีกระเป๋าแต่ละรุ่นจะมี คุณสมบัติที่แตกต่างกันไป รวมถึงของที่ปลอมอาจจะมีบางส่วนที่แก้ไขให้เหมือนของจริงมากขึ้น ทำให้ดูยาก ต้อง Update ข้อมูลใหม่ๆ เสมอ และเพื่อเป็นการทดสอบสายตาเราได้เป็นอย่างดีเลยละค่ะ

2. คุณจะต้องรู้จักกับนโยบายของ Louis Vuitton มาพอสมควร ว่าตั้งแต่เริ่มมา คศ.1854 นั้น

- กระเป๋า LV ของจริงไม่เคยลดราคา หรือขายสินค้าขายลดราคาสินค้ามีตำหนิจากโรงงาน ..เด็ดขาด!! เพราะสินค้ามีตำหนิจะถูกเรียกคืนเอากลับไปทำลายทั้งหมด

- กระเป๋า LV ไม่มี outlets หรือบริษัทย่อยใดๆ ทั้งสิ้น

- กระเป๋า LV ไม่มีขายส่ง คุณจะซื้อกี่ใบก็ราคานั้นอย่างเดียว และห้ามซื้อซ้ำกันเกิน 2 ใบ (เพราะที่ช็อปเองก็ถูกจำกัดจำนวนสินค้ามาจากบริษัทแม่ เหมือนกัน) และที่สำคัญ รุ่นที่ทำเป็น limited นั้น ราคาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ตามวันและเวลา ที่ผ่านไป หรือถ้าเราใช้รักษาดีๆ ซื้อมาราคาไหน แทบจะ 100 % จะขายได้ราคานั้นคะ

- กระเป๋า LV แท้จะไม่มีการห้อยหรือติด tag มากับกระเป๋า หรือไม่เคยเอาถุงพลาสติก / กระดาษ / ทิชชู  คลุมสายกระเป๋า



3. กระเป๋า LV ของแท้ จะไม่มีการห้อย หรือ ติด tag มากับกระเป๋า ซึ่งแบรนด์ดังๆ อย่าง chloe /coach ก็จะไม่ทำเช่นกัน แต่จะเก็บอย่างดีในช่องกระเป๋า (pocket) หรือมากับซองใบเสร็จ ถ้าเป็นของแท้ คุณจะได้ 2 Tax คือ

- Tax ใบที่ 1 เขียนว่า "Louis Vuitton what is the bag is made of whether it s monogram canvas, vernis, epi etc"

- Tax ใบที่ 2 เป็น model number ซึ่งจะตรงกับที่อยู่ที่กระเป๋า และที่บาร์โค็ต และมี care booklet (คู่มือดูแลรักษา)จะอยู่กับรุ่นที่มีราคาสูง หรือถ้าซื้อจาก shop แล้วให้ส่งเป็นพัสดุมา ก็จะมี thank you card ให้ด้วย ดังตัวอย่างด้านล่าง

4. ทางที่ดี เพื่อไม่ให้โดนหลอก ควรจะต้องรู้จักไปถึงผู้ขาย

ถ้าจะให้ปลอดภัยที่สุดคือ ซื้อในบูติกของ LV หรือห้างไฮเอนด์ ที่มีช็อปของ LV หรือ Online Store ที่เชื่อถือได้ (ควรต้องทำการ research หลายๆเว็บที่ขายพวก Luxury Handbag หรือสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ ที่เรากำลังมองหา และสังเกตว่ามีคนพูดถึงเว็บนั้นๆ อย่างไร) หรือต้องรู้จักเจ้าของมาก่อนบ้าง จะบอกไว้เลยว่า LV แท้หรือไม่แท้นั้น จะต้องมีสิ่งดังต่อไปนี้... เพราะคนเล่น LV ร้อยละ 99% จะเก็บใบเสร็จ และ กล่อง หรือใบรับประกันไว้ทั้งนั้น เพราะทั้งหมดนี้มีค่าตอนขายต่อคะ เพราะถ้าเค้าเบื่อ หรืออยากเปลี่ยนใหม่ สามารถเอามาฝากขายได้ ใบเสร็จกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง เค้าจะมีการใส่ซองจดหมายมาให้อย่างดี เพราะเวลาจะเอาไปขายต่อมันจะง่าย เหมือนมีหลักฐานเป็นอย่างดี

5. ดูจากลายพิมพ์/ ลายที่เป็นสัญลักษณ์ของ LV (Monogram) จะถูกวางตรงไหน

เพราะกระเป๋า LV จะใส่ใจในวิธีการวาง Monogram เหล่านี้มาก ตัวอย่างกระเป๋าปลอม เช่น รุ่นลายไม้ลายพิมพ์จะไม่คมชัด หรือลายพิมพ์ตารางหมากรุกจะพิมพ์ต่อกันไม่สนิทพอดี หรือต่อกันไม่เนี้ยบเหมือนของแท้ ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย อาจไปดูจากของเพื่อนที่ซื้อของจริงมาก่อน จากตัวอย่างด้านล่าง เป็นกระเป๋า LV แต่ละรุ่นที่เปรียบเทียบระหว่างของปลอมกับของแท้ ด้านซ้ายเป็นกระเป๋าของปลอม ด้านขวากระเป๋าของแท้ ดังรูป
6. ดูจากขนาด  เพราะของเลียนแบบแม้รุ่นเดียวกันแต่ขนาดจะต่างกันเล็กน้อย คือ ใบจะใหญ่กว่าหรือไม่ก็เล็กกว่าเสมอ เพราะขนาดของแท้จะต้องเป็นไซต์มาตรฐานกำหนดไว้โดยเฉพาะ

7. ดูจากสี  สีของของลอกเลียนแบบส่วนใหญ่มักจะเพี้ยนไปจากของแท้ เช่น สีของหนังโมโนแกรม ถ้าเราเคยเห็นของจริงจนคุ้นตา แล้วได้เห็นของปลอมที่ไม่ปลอมได้ไม่เนียนมากก็จะมองเห็นความแตกต่างได้ทันที

8. ดูจากซิป
ให้ทดลองรูดเปิดปิดดู ซึ่งของลอกเลียนแบบเวลาเปิดแล้วจะรู้สึกสะดุดไม่ลื่นเท่าที่ควร นอกจากนี้การวางซิปของกระเป๋าของแท้จะทำให้เปิดและหยิบของได้เหมาะและสะดวกมือ แต่ของปลอมจะทำไว้แคบๆ หยิบของไม่ถนัด และบางครั้งจะพบว่าซิปที่ใช้ไม่ได้ทำจากสแตนเลสแท้ และที่สำคัญตรงกลางของหัวซิปในบางรุ่น (เช่น Neverfull , Speedy) จะต้องสังเกตุดีๆ จะต้องมีตัวพิมพ์เป็นตัวอักษรคล้ายอักษร Y

9. ดูจากซับใน  ซับในของปลอมจะเป็นคล้ายๆ หนังกลับสีออกเทาๆ ไม่ออกน้ำตาล (คล้ายๆ สีของเห็ด) จะไม่เรียบร้อย การเย็บตะเข็บจะไม่เนี้ยบเท่าของจริง เหมือนมีรอยยับพับซ้อนอยู่ของผ้าซับใน แล้วเนื้อผ้าของก๊อปปี้จะไม่แน่นเท่าของแท้ ถ้าของปลอมอาจจะลองถูๆ ดูซับใน ถ้ารู้สึกว่าเคลื่อนๆผ้าประมาณว่าออกหลวมๆ นั่นก็อาจจะเป็นของปลอมได้

 ของปลอม

ของแท้

10. ดูที่ฝีเข็มการเย็บ และ ช่องว่างต้องสม่ำเสมอ เพราะ LV จะระวังเรื่องนี้มาก เช่น ที่หูหิ้วสองข้างของกระเป๋าหลุยส์ฯ รุ่น Speedy มักจะมี 5 ฝีเข็ม ทุกมุม เป็นต้น

11. กระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ในยุคหลังอาจไม่ได้ Made in France เสมอไป  เพราะปัจจุบัน มีกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง บางส่วนถูกผลิตในอเมริกา สเปน เยอรมนี และอิตาลี

12. ซีรีส์นัมเบอร์ (Date Code) ที่บอก วัน เดือน ปีที่ผลิต ซึ่งของแท้ทุกใบจะมี แบบ font ของแท้จะค่อนข้างสวย ไม่หนาเตอะหรือเบี้ยวบูด อันนี้อาจจะดูจากของแท้ซักใบนึงแล้วจำไว้ว่า เป็น font ประมาณไหน แล้วจำให้ดี ซึ่งกระเป๋าแต่ละรุ่นจะซ่อนไว้ไม่เหมือนกัน ต้องลองหาดูโดยส่วนใหญ่จะเป็นป้ายเล็กๆ ซ่อนเอาไว้ โดยจะขึ้นต้นด้วยภาษาอังกฤษ 2 ตัว ตามด้วยตัวเลขอีก 4 ตัว ซึ่งเช็ครหัสภาษาอังกฤษ 2 ตัวแรกได้ว่ากระเป๋าของคุณผลิตที่ประเทศไหนจากตารางข้างล่างนี้ ถ้ารหัสของกระเป๋าคุณไม่ตรงตามนี้ ถือว่าปลอม ส่วนตัวเลขสี่ตัวหลังนั้น จะบอกเดือนและปีผลิตของกระเป๋า โดยตัวที่ 1 กับตัวที่ 3 จะเป็นการบอกสัปดาห์ที่ผลิต (week) ส่วนตัวที่ 2 กับตัวที่ 4 จะเป็นการบอกปีผลิต เช่นจากในรูปด้านขวามือนี้ กระเป๋าหลุยส์ใบนี้จะผลิตในประเทศฝรั่งเศษ สัปดาห์ที่ 26 ปี 2008

** ซึ่งวิธีการดูเดือนผลิตตัวที่ 1 กับตัวที่ 3 ว่าเป็นสัปดาห์ที่เท่าไหร่นั้นใช้ได้กับกระเป๋ารุ่นที่ผลิตหลังจาก มกราคม 2007 เท่านั้น เพราะก่อนหน้านั้น Louis Vuitton ใช้ตัวเลขตัวที่ 1 กับตัวที่ 3 เป็นการบอกเดือนที่ผลิต เช่นรูปซ้ายมือนี้เป็นกระเป๋าของปี 2002 ฉะนั้นตัวที่ 1 กับ ตัวที่ 3 ของใบนี้จึงเป็นการบอกเดือนที่ผลิต ซึ่งก็คือเดือนที่ 10 นั่นเอง


** แต่สมัยนี้ของปลอม เขาทำ Date Code เอาไว้เกือบหมด ดังนั้น เราต้อง "ดูความลึกตื้น และการวางตำแหน่งแทน" ตัวอย่างดังรูป

รูปที่ 1 (ภาพซ้าย) ของแท้
รูปที่ 2 (ภาพขวา) จะเห็นว่า date code ของเขาจะอยู่ติดชิดขอบล่างเกินไป ของปลอมชัวร!!!



ตาราง date code ของแต่ละประเทศที่ผลิต


13. ดูจากใบการันตี  เมื่อได้ใบการันตีก็สามารถโทรเช็กที่ช็อปได้เลย ว่าสินค้านัมเบอร์นี้ซื้อวันที่เท่านี้เป็นของจริงหรือไม่

14. จากกลิ่น กระเป๋า louis vuitton ถ้าเป็นลาย Monogram กับลาย Damier จะมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์อันหอมหวนของหนัง ซึ่งของก๊อป ถ้าก๊อปเกรดตํ่าๆ จะเป็นกลิ่นพลาสติกอย่างชัดเจน แต่ถึงจะก๊อปปี้เกรดA ก็จะกลิ่นคนละอย่างกับของแท้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณมีกระเป๋าหลุยส์อยู่ในมือ อาจจะลองดมกลิ่นของมันให้คุ้นเคย เวลาเจอกระเป๋าแล้วได้กลิ่นของมันโชยมา ก็ทราบแล้วว่าแท้หรือก๊อปปี้

15. ดูจากถุงผ้า กระเป๋า louis vuitton ทุกรุ่นจะมีถุงผ้าด้วยเสมอ ก่อนปี 2004 จะเป็นถุง cotton flannel 100 % นุ่ม เป็น "สีน้ำตาล" ไม่ใช่ สีน้ำตาลแดง ดังตัวอย่างด้านล่าง ด้านซ้ายปลอม ด้านขวาของแท้ และของแท้จะพิมพ์ แค่ LV เท่านั้นค่ะ

ของปลอม (ภาพซ้าย)                          ของแท้ (ภาพขวา)


** แต่หลังจากปี 2004 กระเป๋า louis vuitton ได้เปลี่ยนถุงใหม่ เป็น ถุงผ้า "สีเหลืองครีม"  พิมพ์ คำว่า "LOUIS VUITTON" ตรงด้านหน้า (เท่านั้น) และตรงก้นของถุงผ้าจะมีป้ายเล็กๆอยู่ โดยป้ายนั้นจะต้องเขียนว่า“Made in India” เท่านั้น ถึงจะเป็นถุงแท้ โดยเนื้อผ้าของกระเป๋าก็จะต้องไม่บางและดูหยาบๆด้วย แต่จะต้องดูเนียนมีราคา โดยถ้าคุณเจอป้ายก้นถุงผ้าถ้าไม่ได้พิมพ์ว่า Made in India หรือว่าไม่มีป้ายเลย ก็อาจเดาในเบื้องต้นได้แล้วว่าเป็นถุงผ้าปลอม ขึ่งถ้าขนาดถุงยังปลอม ตัวกระเป๋าก็คงยากที่จะแท้เหมือนกัน
ของแท้

16. ใช้ความรู้สึกและประสบการณ์ สำหรับแฟนพันธุ์แท้ที่ใช้กระเป๋าหลุยส์ของแท้เป็นประจำคงไม่เป็นปัญหาในการแยกแยะ เพราะเคยสัมผัสอยู่เป็นประจำ

*** แน่นอนว่าบริษัทแม่อย่าง LVMH เองก็ต้องตระหนักถึงปัญหาข้อนี้ดี ทั้งยังมีการตั้งทีมทนายสำหรับจัดการกับปัญหาของลอกเลียนแบบโดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อความแน่ใจ 100% แนะนำให้ซื้อกับร้านสาขาของหลุยส์ วิตตองเองจะดีกว่า หรืออาจจะสั่งสินค้าได้โดยตรงผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทหลุยส์ วิตตองก็ได้


ขอบคุณข้อมูลจาก: 
http://xn--108-dkl0ixb9era8jte.blogspot.com/
http://www.louissecondhand.com 

Friday, August 3, 2012

มารู้จักคำว่า "พอชช์" และ "ครูซ" ในวงการแฟชั่นกันเถอะ (Posh and Cruise)

เชื่อได้ว่าในชีวิตนี้คุณคงเคยได้ยินหรือเคยรู้จักคำว่า "Posh (พอชช์)" อยู่บ้าง ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ติดตามโลกแฟชั่นหรือโลกดารา โดยเฉพาะดารา Hollywood แล้วหละก็ อย่างน้อยๆ คุณคงรู้จัก วิกทอเรีย แคโรไลน์ เบคแคม (Victoria Caroline Beckham) หรือเรียกสั้นๆ ว่า "วิกทอเรีย เบคแคม (Victoria Beckham)" 

Victoria Beckham อดีตสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ดังที่สุดในโลกอย่าง "สไปซ์เกิร์ลส (Spice Girls)" ซึ่งฉายาของเธอก็คือ "Posh Spice" นั่นเอง และที่เธอได้ฉายานี้มาก็เพราะว่าเธอขึ้นชื่อในเรื่องของการทำตัวเป็นคุณนาย หรือที่เรียกว่าเป็นผู้ดี มีสไตล์ เริ่ดหรูแบบเว่อร์ที่สุดชีวิต ไม่ว่าการแต่งกายและการใช้ชีวิต ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เธอจึงเป็นผู้นำแฟชั่นลำดับต้นๆ ของโลกนี้เลยทีเดียวค่ะ


Posh (พอชช์)

เริ่มตั้งแต่ช่วงที่บริษัทเดินเรือยักษ์ใหญ่ P & O  หรือ Peninsular and Orient Steam Navigation Company ให้บริการเดินเรือระหว่างประเทศอังกฤษและอินเดียในช่วงปี 1842-1970 ซึ่งทั้งประเทศอังกฤษและอินเดียนั้นต่างตั้งอยู่ทางซีกโลกเหนือ ดังนั้นเมื่อเดินทางไปฝั่งตะว้นออกจากอังกฤษไปอินเดียที่นั่งโดยสารฝั่งซ้ายที่เรียกว่า “Port (Out)” จะเป็นฝั่งที่ร่ม แดดไม่ร้อน นั่งสบาย ส่วนขากลับที่นั่งในฝั่งตรงข้ามที่เรียกว่า “Starboard (Home)” จะเป็นฝั่งที่ร่มแทน ดังนั้น ที่นั่งที่เรียกว่า Port Out, Starboard Home จึงเป็นที่ต้องการของเศรษฐีทั้งหลาย และก็มาพร้อมกับราคาที่สูงด้วย จึงเป็นที่มาของคำว่า “POSH” ที่แปลว่า “เริ่ด หรู” นั่นเองค่ะ

Cruise (ครูซ)

อีกคำที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ในการเดินทางพักผ่อนที่คุ้นจากสื่อแฟชั่น  ก็คือ คำว่า “Cruise Collection” ที่เป็นคอลเลคชั่นสำหรับการเดินทางพักผ่อนในที่ที่มีอากาศอุ่นสบาย โดยหลีกหนีจากความหนาวในช่วงปลายปี โดยเน้นการล่องเรือ เพราะ “Cruise” นั้นมาจากภาษาฝรั่งเศส “Croisière” (ครัว-ซิ-แยร์) ที่แปลว่า “ล่องเรือ” นั่นเอง



info credit: http://thelistshow.com/2011/09/21/posh-and-cruise/
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...